สุดระทึก!!! พระจ.ชัยภูมิ ขับรถชน เด็กชายวัย 12 ดับอนาถคาที่ ชาวเน็ตงงตาแตก หลวงพี่มาขี่กระบะได้ยังไง (รายละเอียด)

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 15 ม.ค.60 ร.ต.อ.สมชาย รัตนวิชัย รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีรถกระบะพุ่งชนรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ช่วงบริเวณทางเข้าหมู่บ้านโป่งคลองเหนือ ต.ห้วยต้อน อ.เมืองชัยภูมิ ริมบนถนนสายหลัก สายชัยภูมิ-หนองบัวแดง จึงรีบรุดไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อม หน่วยกู้ภัยจากมูลนิธิสว่างคุณธรรมชัยภูมิ
ในที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ ป้ายทะเบียน กง 5116 ชัยภูมิ สภาพด้านหน้าพังยับ เยิน โดยมีพระสุภาชัย ก่อบุญ อายุ 42 ปี แจ้งว่าเป็นพระลูกวัดแห่งหนึ่งในต.หนองบัวแดง อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ เป็นคนขับรถกระบะคันดังกล่าว ห่างออกไป พบรถจักรยานยนต์ สภาพแต่ง พังยับทั้งคัน และ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ใกล้กันยังพบร่าง ดช. ธีรพล ปลื้มชับ อายุ 12 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเลขที่ 187/1 ม.10 ต.ห้วยต้อน อ.เมือง จ.ชัยภูมิ นอนเสียชีวิตสภาพศพแขนขาหักแหลกเละไม่เหลือสภาพถูกล้อรถยนต์กระบะหลุดทับร่างไว้

สอบถามพระสุภาชัย ก่อบุญ อายุ 42 ปี ผู้ขับรถยนต์กระบะคู่กรณี ให้การว่า ได้ขับรถมาถึงบริเวณดังกล่าว เพื่อเร่งไปรับโยมมารดาที่ตัวเมืองชัยภูมิ ซึ่งระหว่างทางมีโค้งจำนวนมาก และมาเจอกับรถจจย.ของเด็กชายผู้เสียชีวิต ได้ขับแซงรถจยย.ของเพื่อนของผู้เสียชีวิตที่ขี่คู่กันขึ้นมา ก่อนพุ่งข้ามเลนมาตัดหน้ามาชนประสานงากันเข้าอย่างจัง จึงเกิดเหตุสลดดังกล่าว

ซึ่งทางด้าน ร.ต.อ.สมชาย รัตนวิชัย รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ในเบื้องต้นจึงได้ขอนำตัวพระที่ขับรถยนต์กระบะมาสอบสวน หาสาเหตุที่แน่ชัดเพิ่มเติมอีกครั้งที่สภ.เมืองชัยภูมิ ว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิดที่แท้จริงต่อไป ส่วนร่างเด็ก 12 ขวบผู้เสียชีวิตทางญาติได้ติดต่อมาเพื่อขอรับศพไปดำเนินการทำพิธีตามศาสนาต่อไป

พระสงฆ์ขับรถยนต์ ไม่ผิดพระธรรมวินัย แต่ไม่เหมาะสม

นาย อำนาจ บัวศิริ ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า ในระยะหลังมีกรณีที่พระภิกษุขับรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ เพื่อไปทำกิจธุระต่างๆ เป็นจำนวนมาก ประกอบกับมีข่าวรองเจ้าอาวาสขับรถยนต์ไปรับสีกาจนถูกสามีของสีกายิงเสียชีวิต ซึ่งกระทบต่อศรัทธาพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างมาก ดังนั้น ตนขอย้ำว่า การที่พระสงฆ์ขับรถยนต์เองนั้นถือว่าไม่เหมาะสม
เนื่องจากจะทำให้ดูไม่สำรวมแล้ว จะเป็นภาพที่ไม่ดีในสายตาประชาชน แต่ถ้ามองตามหลักพระธรรมวินัยถือว่า ไม่ผิด ทั้งนี้ การที่พระสงฆ์จะขับรถยนต์เองได้นั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับเหตุผลด้วย เช่น พระลูกวัดป่วยหนักและไม่มีลูกศิษย์ ขับรถขนของในวัดที่กำลังก่อสร้าง เป็นต้น โดยส่วนใหญ่แล้ววัดในประเทศไทยร้อยละ 90 จะมีลูกศิษย์ และควรให้ลูกศิษย์ขับรถให้จะดีกว่า ทั้งนี้ การที่พระบางรูปขับรถ ให้ประชาชนสันนิษฐานไว้ก่อนว่า มีเหตุให้น่าสงสัย ขอให้แจ้งเตือนต่อเจ้าหน้าที่บ้านเมืองหรือแจ้งเจ้าคณะผู้ปกครอง หรือแจ้งสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ให้ช่วยตรวจสอบในเบื้องต้นก่อน

โดยสำนักพุทธฯ ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาให้ด้วย นอกจากนี้ สำนักพุทธฯ จะประสานเจ้าคณะผู้ปกครองให้ช่วยกวดขันเรื่องดังกล่าวให้มากขึ้นและทราบว่า ท่านก็มีความห่วงใยในเรื่องนี้มากเช่นกัน เพราะส่งผลกระทบต่อพระพุทธศาสนา ต่อศรัทธาประชาชนในวงกว้าง

“อย่างไรก็ตาม คงไม่เหมาะที่พระสงฆ์จะมาขับรถยนต์เอง หากไม่มีความจำเป็นจริงๆ หรืออยู่ในถิ่นทุรกันดารจริงที่พระต้องขี่มาบิณฑบาต ในขณะเดียวกัน พระสงฆ์ที่ขี่รถจักรยานยนต์ไปบิณฑบาตก็ไม่เหมาะและถือว่าผิดกิจของสงฆ์ด้วย นอกจากพระรูปนั้นป่วยเดินไม่สะดวก อาจจะมีลูกศิษย์พานั่งรถไปบิณฑบาตได้ อย่างไรก็ตาม การที่พระสงฆ์จะขับรถยนต์ได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับเหตุผลอันสมควร หากขับไปรับสีกา หรือไปเที่ยวถือว่าไม่ควรกระทำ”

ทีมา:http://www.siamdrama.com/view-4283.html