ข่าววันนี้

พาณิชย์บึงกาฬ จับได้คาหนัง ตาชั่งสั่งด้วยรีโมท หมกเม็ดน้ำหนักยางพารา

loading...

 
 (4 พ.ย.58) เมื่อเวลา  08.00 น. นายวิโรจน์ พิเภก พาณิชย์จังหวัดบึงกาฬจึงได้นำทีมคณะเจ้าหน้าที่ช่าง ตวง วัด จากจังหวัดอุดรธานี  ทหาร ตำรวจ  ฝ่ายปกครองอำเภอศรีวิไล ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดรับซื้อยางพารานิคมยางพาราหมู่ที่ 3 บ้านหนองบัวงาม ตำบลนาสะแบง อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ พบมีการซื้อขายยางเป็นปกติโดยจุดรับซื้อยางมีนางสาวสมพร ไขทอง เป็นผู้ดูแลลานยางดังกล่าว

loading...


จากการตรวจสอบเครื่องชั่งแบบไม่อัตโนมัติชนิดสปริงพิกัดกำลัง 60 กิโลกรัม ที่จุดรับซื้อยางดังกล่าว ในเบื้องต้นไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ได้สังเกตโดยละเอียดพบว่าบริเวณหัวน็อตฝาปิดเครื่องชั่งมีรอยแกะ จึงได้ทำการเปิดฝาเครื่องชั่งตรวจสอบ พบชุดอุปกรณ์รีโมทติดตั้งที่เครื่องชั่ง ประกอบด้วย แบตเตอรี่ กล่องควบคุมการทำงานโซลินอยู่ติดตั้งกับคอยสปริงเพื่อเป็นตัวรองรับน้ำหนัก เมื่อทดสอบทำการชั่งน้ำหนักและการใช้ชุดควบคุมรีโมทระยะไกล เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการทดสอบเครื่องชั่งเมื่อกดรีโมทให้ทำงานตัวสปริงรับน้ำหนักจะเคลื่อนไปอยู่ใต้ตัวรับน้ำหนักทำให้ตาชั่งแข็งขึ้นแต่เมื่อกดรีโมทอีกครั้งตัวสปริงก็จะถอยออกมาตาชั่งก็จะเป็นปกติ ผลการทดสอบโดยตุ้มน้ำหนักแบบมาตราเครื่องชั่งแสดงค่าน้ำหนัก0 กิโลกรัมก่อนทำการชั่งเมื่อวางตุ้มน้ำหนัก 20 กก.เครื่องชั่งอ่านได้ 18.4 กก. วางตุ้มน้ำหนัก 40 กก. เครื่องชั่งอ่านได้ 36.4 กก. วางตุ้มน้ำหนัก 50 กก. เครื่องชั่งอ่านได้ 45.2 กก. วางตุ้มน้ำหนัก 60 กก.  เครื่องชั่งอ่านได้ 54 กก. และเมื่อวางตุ้มน้ำหนัก 65 กก. เครื่องชั่งอ่านได้ 58.2 กก. เมื่อพบการกระทำความผิดดังกล่าวเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนางสาวสมพร พร้อมของกลางนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีวิไล ดำเนินคดีตามกฎหมาย




นางสาวสมพร ให้การรับสารภาพว่าได้ซื้อตาชั่งพร้อมรีโมทมาในราคา 12,000 บาท ซึ่งทำขายอยู่ในจังหวัดบึงกาฬ(ไม่บอกว่าที่ใด) เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา กระทำการใดๆ เครื่องชั่งตวงวัดที่มีการรับรอง แสดงน้ำหนักปริมาณผิดไปจากที่ได้ ที่ได้ทำการตรวจความเที่ยงกับแบบมาตราเกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดตามที่กำหนดในกฎกระทรวง และใช้เครื่องชั่งที่ผิดอัตราที่เอาเปรียบในทางการค้า โทษจำคุก 3 ปี ปรับ 120,000 บาท
loading...
ทีมา:http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1446619441

About sima

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.