ข่าววันนี้

โคตรชั่ว!! ศาลอุดรฯ สั่งจำคุก ครู ข่มขืนลูกศิษย์ 2 ปี ก่อนพบประวัติความเลวบางอย่าง? เป็นใครก็รับไม่ได้ เลวขนาดนี้แต่ทำไมโรงเรียนยังปกป้อง!!!?

loading...


หลังจากที่เมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคม 2559 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากญาติของนักเรียนชั้น ม.2 ที่โรงเรียนเพ็ญพิทยาคม ว่าได้ถูกอาจารย์ชาย คนหนึ่งที่สอนวิชา วิทยาศาสตร์  ในโรงเรียน ได้ล่อลวง บุตรสาว ไปที่ห้องพักครู แล้วก็ข่มขืนกระทำชำเรา บุตรสาวของตน และยังได้ก่อเหตุกับนักเรียนหญิงคนอื่นอีกเช่นกัน  ซึ่งเหตุเกิดเมื่อปี 2558  แจ้งความตำรวจแล้วไม่มีความคืบหน้า จึงขอให้สื่อช่วยติดตามคดีดังกล่าวนี้ด้วย

ต่อมาได้ไปแจ้งความดำเนินคดีแต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใด และทางผอ.โรงเรียน ก็ได้แต่อ้างว่า เพิ่งมารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม  59 ที่ผ่านมา ยังทำงานได้ไม่ถึงเดือน แต่ก็พอทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นบ้าง ตอนนั้นมีรอง ผอ.รักษาการ ผอ.โรงเรียน จากการตรวจสอบพบว่า ทางโรงเรียนได้ส่งเรื่องให้ทาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 20 หรือ สพม.20 ตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว แต่ผลการสอบสวนเป็นอย่างไร อยู่ที่ทาง สพม. 20 ส่วนตัวครูที่ถูกกล่าวหา ได้เรียกตัวมาสอบถาม ก็ปฏิเสธและบอกแต่ว่า จะขอขึ้นศาลไม่ขอตอบอะไรทั้งสิ้น

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 ม.ค. 2560 ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 11 ศาลแขวงจังหวัดอุดรธานี ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้น คดีเลขดำที่ อ 1262/59 กล่าวหา นายปรารถนา เพชรฤทธิ์ อายุ 52 ปี ครูสอนวิทยาศาสตร์ ชั้น ม.2 โรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี กระทำการข่มขืน , พรากผู้เยาว์ และกระทำอนาจาร เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนในปกครอง ภายในห้องพักครูหลังเลิกเรียน เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2558

โดยศาลมีคำพิพากษาจำคุก 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา นายปรารถนา ในข้อกระทำอานาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และให้นายปรารถนา จ่ายเงิน ให้กับผู้ปกครองของเด็กเป็นเงินจำนวน  100,000 บาท ส่วนคดีข่มขืน และพรากผู้เยาว์ให้ยกฟ้อง หลังอ่านคำพิพากษาเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลได้เข้าควบคุมตัวไปกักไว้ภายห้องควบคุมของศาลอุดรธานี ก่อนส่งตัวเข้าเรือนจำกลางอุดรธานี ขณะญาติและทนายความ เตรียมยื่นประกันตัว และขอความเป็นธรรมในชั้นอุทธรณ์ต่อไป

   สำหรับคดีนี้ ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชั้นม.2 เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี โดยร.ต.อ.ธนวัตน์ ทองวิลัย พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 58 มีผู้ปกครองนักเรียนไปร้องเรียนที่โรงเรียนว่า ลูกสาวถูกครูข่มขืนและทำอนาจาร แต่ทางโรงเรียนอ้างว่าขณะนั้นโรงเรียนไม่มี ผอ.มีแต่ รอง ผอ.รักษาการ ไม่มีอำนาจเต็มที่จะดำเนินการได้ ต่อมาวันที่ 18 ธันวาคม 58 ผู้ปกครองจึงได้พาเด็กนักเรียนมาแจ้งความ ซึ่งได้ทำการสอบปากคำเด็กทั้ง 2 คน โดยเหตุเกิดกับเด็กนักเรียนคนแรกกลางเดือนมิถุนายน 58 และเด็กคนที่ 2 กลางเดือนสิงหาคม 58 และจากการสอบถามผู้ปกครอง ที่ทราบจากเด็กนักเรียน บอกว่ายังมีเด็กนักเรียนอีกหลายคน ที่ถูกข่มขืนและทำอนาจาร แต่ไม่มีใครกล้าเข้าแจ้งความ

loading...
หลังรับแจ้งความตนได้ลงพื้นที่ไปตรวจที่เกิดเหตุถึง 3 ครั้ง แต่ปรากฏว่าทางโรงเรียนไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ยอมเปิดประตูให้เข้า อ้างว่าลืมกุญแจบ้าง กุญแจอยู่กับคนนั้นคนนี้บ้าง แต่สุดท้ายก็เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้สอบปากคำเด็กนักเรียนรวบรวมพยานหลักฐานสั่งฟ้องไปแล้ว ซึ่งเด็กคนแรกที่ถูกข่มขืน แพทย์ตรวจพบร่องรอยการถูกข่มขืนจริง และสอบสวนทราบอีกว่า มีการพาเด็กไปที่รีสอร์ตด้วยหนึ่งครั้ง ส่วนเด็กรายที่ 2 โดนนิ้วแหย่ทำอนาจาร ตอนนี้อัยการรับสำนวนส่งฟ้องศาลไปแล้ว ในข้อกล่าวหา“ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี พรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 15 ปี และพยายามข่มขืนกระทำชำเราอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี”

ร.ต.อ.ธนวัฒน์ฯ กล่าวอีกว่า หลังสั่งฟ้อง ศาลได้นัดสืบคดีแรกวันที่ 22 ธันวาคม ส่วนคดีที่ 2 วันที่ 17 มกราคม ปีหน้า ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติของครูคนดังกล่าวพบว่า ก่อนที่จะย้ายมาโรงเรียนแห่งนี้ ได้สอนอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี และเคยถูกแจ้งความดำเนินคดีข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราและอนาจารเด็กนักเรียน ในปี 49 ด้วยก่อนจะย้ายมาอยู่ที่นี่ และมาก่อเรื่องอีก

พ.ต.อ.นวาระ จันนาวัน ผกก.สภ.เพ็ญ เปิดเผยว่า ต่อจากนี้ตนจะให้ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาข่าวว่า มีเด็กนักเรียนคนไหนที่ถูกครูคนนี้กระทำอนาจารอีกหรือไม่ ซึ่งในส่วนของโรงเรียนที่ไม่มีดำเนินการใด ๆ ทั้งการตั้งกรรมการสอบสวน หรือย้ายครูให้ห่างจากเด็กนักเรียน ก็เป็นเรื่องของทางโรงเรียนที่ต้องดำเนินการ แต่หากการสืบสวนพบว่า มีเด็กถูกกระทำเพิ่มอีกกี่ราย จะต้องดำเนินคดีทั้งหมด ตนจึงฝากถึงผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่เคยถูกครูคนดังกล่าวข่มขืนหรือทำอนาจาร ให้รีบมาพบพนักงานสอบสวน แจ้งความดำเนินคดีเพิ่ม ซึ่งเชื่อว่า น่าจะมีอีกหลายคน
loading...
ทีมา:http://www.siamvariety.com/view-14912.html

About sima

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.